ครูใหญ่ตอบ : ก่อนที่เด็กจะได้มาจับฉลากลและเขาเรียนที่นี้ เรามีเงื่อนไขว่าผู้ปกครองต้องรับ-ส่งเด็กได้ เราจะไม่ให้ที่นี้เป็นโรงเรียนประจำ เรามองว่าโรงเรียนเป็นแค่ชีวิตจำลอง แต่ของจริงนั้นอยู่บ้าน ทุกครั้งที่เขาต้องเผชิญกับของจริงจะแก้ปัญหาและใช้ชีวิตแบบจริงๆ กลับมาใช้ชีวิตแบบจำลองที่นี้เขาจะเห็น และสุดท้ายตัวเขาจะเป็นคนเลือกว่าเขาต้องการแบบใหนและพอเติบโตไปจะใช้ชีวิตแบบไหน โรงเรียนจริงๆ แล้วมีอิทธิพลต่อเด็กเพียง 20% เราเรียนรู้นอกห้องเรียนมากกว่า ในชั้นประถมเราจำอะไรได้บ้างที่ครูสอน ในชั้นมัธยมเราจำอะไรได้บ้างในชั้นที่ครูสอน สิ่งที่ท่านจำได้ผมมั้นใจสิ่งนั้นมันจะโยงกับความรู้สึกบางอย่างและเป็นสิ่งที่ดีงามด้วย
มีหลายอย่างที่เด็กๆ รุ่นต่อมาต้องการความจริง แล้วคนที่มีความหวังที่จะบอกความจริงเด็กก็คือครู เราสบายใจจริงเหรอที่มีแอปเปิ้ลให้กินตลอดปี บ้านเราไม่ได้ปลูกแอปเปิ้ลแล้วมีตลอดปี ตามแผงลอยในทุกที่มีหมด ผลไม้ควรจะมีฤดูกาล เราสบายใจจริงเหรอที่เดินเข้าปในห้างสรรพสินค้ามีสินค้ามากมายเต็มห้างสรรพสินค้า แต่ทั้งหมดมาจากสิ่งเดียวคือข้าวโพด เราสบายใจจริงเหรอที่เรามีปลานิล ปลาที่อ้วนท้วนสมบูรณ์กินราคาถูกโดยที่มันไม่มีเพศ เราสบายใจจริงเหรอที่ไก่ที่เรากินเลี้ยงเพียง 42 วัน ทั้งที่ไก่จริง ๆ ควรเป็น 3 เดือนหรือ 6 เดือนจึงได้กิน ก็มีหลายอย่างที่เราไม่รู้ แล้วกลายเป็นว่าเด็กถูกกระทำหรือเราถูกกระทำ เราอยากได้เมล็ดพันธุ์อะไรสักอย่างเราต้องซื้อ ซื้อแล้วเมล็ดพันธุ์เติบโตเป็นต้นเป็นผลแต่ไม่สามารถขยายพันธุ์ได้ อยากได้อีกทีก็ซื้ออีกที เราสบายใจแล้วเหรอน้ำมันที่อยู่ในดินมันควรจะเป็นของโลกแต่มีใครบางคนเจาะลงไปแล้วบอกว่ามันเป็นของฉันทั้งหมด เราสบายใจแล้วเหรอที่น้ำอยู่บนฟ้าตกลงมาแล้วมีคนบอกว่านี้ของฉันทุกคนต้องขออนุญาต สิ่งเหล่านี้มันเป็นความจริงที่ครูต้องถ่ายทอด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น