วันพฤหัสบดีที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2553

เงื่อนไขการรับเด็กของลำปลายมาศพัฒนาเป็นอย่างไรบ้าง ?

(ถามโดย : ครูและบุคคลทั่วไป)


ครูใหญ่ตอบ : ก่อนที่เด็กจะได้มาจับฉลากลและเขาเรียนที่นี้  เรามีเงื่อนไขว่าผู้ปกครองต้องรับ-ส่งเด็กได้  เราจะไม่ให้ที่นี้เป็นโรงเรียนประจำ  เรามองว่าโรงเรียนเป็นแค่ชีวิตจำลอง  แต่ของจริงนั้นอยู่บ้าน  ทุกครั้งที่เขาต้องเผชิญกับของจริงจะแก้ปัญหาและใช้ชีวิตแบบจริงๆ  กลับมาใช้ชีวิตแบบจำลองที่นี้เขาจะเห็น  และสุดท้ายตัวเขาจะเป็นคนเลือกว่าเขาต้องการแบบใหนและพอเติบโตไปจะใช้ชีวิตแบบไหน  โรงเรียนจริงๆ แล้วมีอิทธิพลต่อเด็กเพียง  20%  เราเรียนรู้นอกห้องเรียนมากกว่า  ในชั้นประถมเราจำอะไรได้บ้างที่ครูสอน  ในชั้นมัธยมเราจำอะไรได้บ้างในชั้นที่ครูสอน  สิ่งที่ท่านจำได้ผมมั้นใจสิ่งนั้นมันจะโยงกับความรู้สึกบางอย่างและเป็นสิ่งที่ดีงามด้วย
มีหลายอย่างที่เด็กๆ รุ่นต่อมาต้องการความจริง  แล้วคนที่มีความหวังที่จะบอกความจริงเด็กก็คือครู  เราสบายใจจริงเหรอที่มีแอปเปิ้ลให้กินตลอดปี  บ้านเราไม่ได้ปลูกแอปเปิ้ลแล้วมีตลอดปี  ตามแผงลอยในทุกที่มีหมด  ผลไม้ควรจะมีฤดูกาล  เราสบายใจจริงเหรอที่เดินเข้าปในห้างสรรพสินค้ามีสินค้ามากมายเต็มห้างสรรพสินค้า  แต่ทั้งหมดมาจากสิ่งเดียวคือข้าวโพด  เราสบายใจจริงเหรอที่เรามีปลานิล  ปลาที่อ้วนท้วนสมบูรณ์กินราคาถูกโดยที่มันไม่มีเพศ  เราสบายใจจริงเหรอที่ไก่ที่เรากินเลี้ยงเพียง  42  วัน  ทั้งที่ไก่จริง ๆ ควรเป็น 3  เดือนหรือ 6  เดือนจึงได้กิน  ก็มีหลายอย่างที่เราไม่รู้  แล้วกลายเป็นว่าเด็กถูกกระทำหรือเราถูกกระทำ   เราอยากได้เมล็ดพันธุ์อะไรสักอย่างเราต้องซื้อ  ซื้อแล้วเมล็ดพันธุ์เติบโตเป็นต้นเป็นผลแต่ไม่สามารถขยายพันธุ์ได้  อยากได้อีกทีก็ซื้ออีกที  เราสบายใจแล้วเหรอน้ำมันที่อยู่ในดินมันควรจะเป็นของโลกแต่มีใครบางคนเจาะลงไปแล้วบอกว่ามันเป็นของฉันทั้งหมด  เราสบายใจแล้วเหรอที่น้ำอยู่บนฟ้าตกลงมาแล้วมีคนบอกว่านี้ของฉันทุกคนต้องขออนุญาต  สิ่งเหล่านี้มันเป็นความจริงที่ครูต้องถ่ายทอด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น