(ถามโดยครูและบุคคลทั่วไป)
- หัวหน้าห้อง ทุกชั้นเรียนจะไม่มีหัวหน้าห้อง แต่เด็กทุกคนสามารถเป็นผู้นำได้ และเป็นผู้ตามที่ดีได้ด้วย ระดับอนุบาลครูจะไล่ตามวันที่ เช่น วันที่ 12 คนที่เลขที่ 12 ก็จะได้เป็นผู้นำในการทำกิจกรรม ได้แก่ ช่วยคุณครูแต่เพื่อนที่พร้อมเข้าห้องเรียนหรือทำกิจกรรมต่างๆ เป็นต้น ถ้าเลขที่ของเด็กคนใดตรงกับวันหยุด เป็นหน้าที่ครูที่จะต้องหากิจกรรมให้เลขที่ดังกล่าวได้เป็นผู้นำ ส่วนพี่ประถมฯ ครูจะเรียกว่ามอนิเตอร์ อาจจะเป็นกลุ่มหรือเป็นรายบุคคลก็ได้ ระยะเวลาก็ขึ้นอยู่กับข้อตกลงของแต่ละชั้น
- การชักธงชาติ และเชิญธงชาติ เด็กทุกคนในโรงเรียนต้องมีโอกาสได้ออกไปทำหน้าที่ดังกล่าว ตั้งแต่ชั้นอนุบาลไปจนถึงชั้นป.6 โดยเวียนกันไปในแต่ละวัน ซึ่งกิจกรรมหน้าเสาธงของเราจะใช้เวลาสั้นๆ ประมาณห้านาที ร้องเพลงชาติ สวดมนต์แปล ร้องเพลงแผ่เมตตา จากนั้นครูก็กล่าวขอบคุณและชื่นชมนักเรียน แล้วเชิญทุกคนแยกย้ายเข้าชั้นเรียนเพื่อทำกิจกรรมต่อไป ซึ่งกิจกรรมหน้าเสาธงเราจะไม่มีครูมาอบรมหน้าเสาธง เพราะเป็นช่วงเวลาที่เด็กไมพร้อมที่จะเรียนรู้
- กลุ่มบริหาร แต่ละชั้นจะมีการจัดกลุ่มบริการ เพื่อคอยอำนวยความสะดวกให้กับเื่พื่อนๆ เช่น น้องอนุบาลจะมีกลุ่มบริการในการตักอาหารให้กับเพื่อนๆ กลุ่มบริการในการตากผ้าเช็ดตัว กลุ่มบริการในการปูที่นอน กลุ่มบริการในการแจกการบ้าน แจอาหารว่าง ไปรับนม แจกนม ฯลฯ
- สภานักเรียน นักเรียนตั้งแต่ชั้น ป.1-ป.6 ทุกคนสามารถสมัครเป็นสมาชิกสภานักเรียนได้ทุกคน ในแต่ละปีจะมีเด็กสมัครเกือบร้อยคน และเราจะมีช่วงเวลาให้ทุกคนที่สมัครได้แถลงนโยบาย
- กิจกรรมประชัดความสามารถด้านต่างๆ ในแต่ละเดือนลำปลายมาศพัฒนาจะจัดให้มีเวทีประชันความสามารถ ใครอยากโชว์ด้านใดก็สามารถนำมาแสดงได้ เช่น เล่นดนตรีสากล ดนตรีไทย ร้องเพลง ประชันหมากลุก ประชั้นศิลปะ ประชั้นการวาดภาพ การแต่งกลอน ฯลฯ เพราะการประชัดเราจะไม่มีการตัดสิน แต่ทุกคนจะได้นำเสนอความสามารถ แล้วทุกคนก็จะเกิดความภาคภูิมิใจ กล้าที่แสดงออก
- Show and Share (แลกเปลี่ยนเรียนรู้) ทุกๆ สัปดาห์นักเรียนทุกชั้น ทุกคนจะมีการนำเสนอและแลกเปลี่ยนสิ่งที่ตัวเองได้ไปศึกษาค้นคว้าร่วมกับผู้อื่น แล้วสุดท้ายเด็กจะเกิดองค์ความรู้ด้วยตนเอง
- อ่านหนังสือให้น้องฟัง พี่ประถมจะหมุนเวียนกันไปอ่านนิทานให้น้องๆ อนุบาลฟัง พี่ป.4-6 ก็ไปสอนน้องๆ ที่อ่านหนังสือช้า
- สรุปงานสิ้นปี ในแต่ละปีนักเรียนทุกชั้นจะสรุปสิ่งที่ตัวเองได้เรียนรู้ให้ผู้อื่นได้รับทราบ อาจจะสรุปออกมาในรูปของละคร นิทาน เพลง การเต้น โต้วาที ฯลฯ
- การสอน เวลาที่ครูสอนแล้วถ้านักเรียนตอบผิดครูจะไม่ไปตัดสินว่าถูกหรือผิด เช่น เรียนคณิตศาสตร์ แม้ว่าครูจะรู้ว่านักเรียนตอบผิด แต่ครูก็จะไม่บอกว่าผิดหรือถูก ครูจะถามว่าคิดอย่างไรจึงได้คำตอบนี้ จากนั้นครูก็จะใช้วิธีถามเพื่อนๆ มีใครคิดแตกต่าง หรือมีใครได้คำตอบแตกต่างจากนี้ พร้อมอธิบายวิธีคิด แล้วครูก็จะถามเด็กที่ตอบผิดว่าเห็นด้วยกับคำตอบของเพื่อนหรือไม สุดท้ายเด็กคนที่ตอบผิดจะรู้เองว่าคำตอบที่ถูกคืออะไร และสามารถคิดหาคำตอบได้หลายวิธี เด็กจะเกิดองค์ความรู้ด้วยตนอง และอีกอย่างเด็กจะไม่รู้สึกอายหรือเสียหน้าเลยที่ตอบผิด
- แนวทางการจัดการเรียนการสอน แม้แต่การออกแบบการเรียนเราก็ยึดผู้เรียนเป็นสำคัญอย่างแท้จริง เด็กๆ มีส่วนร่วมในการเลือกหน่วยที่เขาอยากเรียน มีส่วนร่วมในการออกแบบการจัดการเรียนการสอนในทุกกระบวนการ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น